การ แก้จมูก หรือ เสริมจมูก เป็นการเสริมความงามที่คนไทยนิยมมากที่สุด เนื่องจากคนไทย มีสัดส่วนของใบหน้าที่ขาดมิติ การทำจมูกซึ่งทำให้ใบหน้าสวย ดูเด่นมากขึ้นนั้น จึงเป็นที่นิยม ด้วยเทคนิค ของคุณหมออุ๋ย พญ.ปนิตา ประทีปเสน จะเน้นการเพิ่มมิติให้ใบหน้า ทำจมูกให้มีสันดูโด่ง ไม่หลอกตา ปลายหยดน้ำมีความพุ่ง เสริมด้วยการตกแต่งปลายจมูก ด้วยเทคนิดการเหลาแบบพิเศษ ทำให้สามารถลดแรงที่ปลายจมูก นอกจากจะลดความเสี่ยงของการทะลุของซิลิโคน ยังทำให้ปลายจมูกที่เสริมพุ่งมน ดูเป็นธรรมชาติ
เสริมจมูกด้วยซิลิโคน
คุณหมออุ๋ยเลือกใช้ซิลิโคนจมูก USA Implant Grade ซึ่งเป็นวัสดุทางการแพทย์ ที่มีความบริสุทธิ์ ปลอดภัยสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต อีกทั้งมีความยืดหยุ่นสูง โดยซิลิโคนที่คุณหมอเลือกใช้ในปัจจุบัน เป็นซิลิโคนจมูกที่ขึ้นรูปมาแล้ว เพื่อความแม่นยำในการเหลาแต่ง และยังสามารถเลือกเหลาได้หลากหลายรูปแบบ วิธีการเหลาแต่งเพิ่มเติม ทำให้เกิดความลงตัวกับโครงสร้างของจมูก และให้ได้ทรง ตามที่เหมาะกับใบหน้า ในขั้นตอนของการเหลาจึงต้องพิถีพิถัน ใช้เวลาในการเหลาซิลิโคนนานพอสมควรทีเดียวค่ะ
ภาพก่อนและหลัง แก้จมูก แบบต่างๆ
การแต่งปลายจมูก
การแต่งปลายจมูก เป็นเรื่องที่สำคัญมากพอๆกับ การเสริม การทำปลายต้องมีความพอดี การแต่งปลายด้วยเทคนิคที่เหมาะสมนอกจากจะทำให้ ปลายสวย ต้องไม่เกิดปัญหาจมูกปลายเหินหรือจมูกหมู ปลายจมูกที่ดี ควรเป็นปลายจมูกหยดน้ำ อีกทั้งมีความพุ่งละมุน ปลายจมูกที่สวยคู่กับ การทำจมูกที่เหมาะสมจะทำให้หน้าดูเพรียว ได้สัดส่วน โดยไม่รู้สึกตึง หรือ เจ็บที่ปลายจมูกแต่อย่างใด
การเก็บปีก หรือ ตัดปีกจมูก
โดยส่วนใหญ่ของจมูกคนไทย มักมีช่วงปลายที่มีเนื้อหนา ปีกกว้างบาน การตัดปีกจมูก มีความจำเป็นต้องพิจารณาในหลายส่วน ตั้งแต่ขนาดรูจมูก ความกว้างของปีกจมูก ความหนาของปีกจมูก ซึ่งคุณหมออุ๋ยจะเลือกใช้เทคนิคการตัดปีกจมูกให้เหมาะสมกับแต่ละราย การตัดปีกเป็นหัตถการ ที่ต้องละเมียดละมัย พิถีพิถันสูง เนื่องจากการตัดเนื้อเยื่อ หรือส่วนใดๆออกแล้ว หากต้องการแก้ไขในภายหลังจะทำได้ยาก คุณจึงควรศึกษาข้อมูลในการทำและพิจารณาให้ดีค่ะ
การตะไบจมูก
กรณีที่กระดูกจมูกปูดนูน หรือมีฮั้ม การตะไบจมูกจะช่วยให้การเสริมซิลิโคนเนียนเรียบไปกับสันจมูกมากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นการตะไบฮั้มก็เหมาะกับกรณีที่ Hump สูงไม่มากนัก กรณีที่ฮัมพ์สูงมากจนมีปัญหาจมูกดูโก่งเป็นจมูกนกแก้ว อาจจะต้องเลือกใช้วิธีอื่น เช่น การตอกกระดูก (ด้วยวิธีการเสริมจมูกแบบเปิด) แทนเพื่อความเหมาะสมค่ะ
แก้จมูก
อย่างที่เรียนแล้วว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนเป็นที่นิยมในคนไทยเป็นอย่างมาก จึงทำให้ การ แก้จมูก ก็เป็นเรื่องที่พบบ่อยเช่นเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันนี้กรณีที่มา แก้จมูก กับคุณหมออุ๋ย ส่วนใหญ่จะมีปัญหา จมูกเหิน จมูกหมู สันชัดจนเป็นแท่ง สันเป็นขอบ ซึ่งคุณหมออุ๋ยมีเทคนิคในการจัดการปัญหาเหล่านั้นได้อย่างเหมาะสม ช่วยทำให้จมูกโด่งเนียน ไม่หลอกตา สันไม่เป็นขอบ ปลายหยดน้ำพุ่งละมุนตา ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวจากการสั่งสมประสบการณ์การดูแลเคสแก้จมูก และแก้จมูกทำให้คุณหมออุ๋ยสามารถวางแผนการทำได้อย่างตรงจุด สามารถแก้ปัญหาของแต่ละท่านได้อย่างลงตัวค่ะ
การจองคิว หรือนัดหมาย
- ท่านสามารถทำการนัดหมาย หรือต้องการส่งภาพเพื่อปรึกษา ผ่านช่องทางการติดต่อของคุณหมออุ๋ย ID Line : @auiza.com หรือ ลิ้งค์ https://line.me/R/ti/p/%40who2234y
- กรณีงานแก้ แนะนำเข้าปรึกษากับคุณหมออุ๋ย ก่อนการตัดสินใจ
- สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 061-456-5666
การเตรียมตัวก่อนการรับบริการ เสริม หรือ แก้จมูก
- ควรแจ้งประวัติ การแพ้ยา โรคประจำตัว ยาที่รับประทานเป็นประจำ รวมถึง ประวัติ การผ่าตัดให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ทราบก่อนการเข้ารับบริการ เพื่อการเตรียมตัวที่เหมาะสม
- ควรงดวิตามินเอ หรือวิตามินบำรุงผิวทั้งหลาย รวมถึงน้ำมันตับปลา เพราะจะทำให้เลือดลมสูบฉีดมาก เป็นเหตุให้เลือดออกมากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการช้ำได้มาก
- ควรงดสูบบุหรี่ และงดแอลกอฮอล์ ก่อนการทำจมูกอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และบวมที่มากกว่าปกติ
- ก่อนรับบริการ 1-2 วัน ควรนอนหลับพักผ่อน ให้เพียงพอ
- หลังการเสริมหรือแก้จมูกก็ตาม จะมีอาการบวมเป็นปกติของการผ่าตัด การทำงานทั่วๆไปสามารถเริ่มทำได้หลังการทำทันทีค่ะ เว้นกรณีที่ท่านต้องพบปะ หรือ เป็นงานที่รับรองลูกค้าแนะนำพัก 3-5 วัน ตามแต่งานที่ทำอยู่ค่ะ หากเป็นการทำงานด้านอื่นๆสามารถทำงานได้ตามปกติค่ะ
ในวันเข้ารับบริการ ควรสวมเสื้อผ้า และรองเท้าที่สวมหรือถอดได้ง่าย และหากเข้ารับบริการเพียงลำพัง ไม่ควรมีของมีค่าติดตัวไปมาก เพราะอาจทำให้กังวล
การดูแลตนเองหลังรับบริการ
– รับประทานยาที่แพทย์สั่ง อย่างเคร่งครัด
– ไม่ควรนอนนานๆ ควรลุกเดินทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ เพื่อให้ยุบบวมได้เร็วขึ้น
– หากมีเลือดหรือน้ำเหลืองบริเวณแผลผ่า ให้ใช้สำลีสะอาดชุบน้ำเกลือซับเบาๆ
– ห้ามแคะสะเก็ดเลือดออกจากแผลเด็ดขาด ระวังไหมหลุด จะเกิดแผลเป็น
– ในช่วงแรกหลังการทำจมูก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกครั้งแรก หรือการแก้จมูก เมื่อเนื้อเยื่อยังไม่เข้าที่ อาจมีอาการบวมสองข้างไม่เท่ากัน จนอาจทำให้เข้าใจผิดว่าจมูกเอียงเบี้ยวได้ แนะนำว่าอย่าเพิ่งกังวล หากมีข้อสงสัยควรสอบถามเพิ่มเติม โดยตรง
– หากเป็นภูมิแพ้ (แม้ไม่มีอาการ)ให้ทานยาแก้ภูมิแพ้หลังจากเสริมจมูกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการ ไอ จาม รุนแรง เนื่องจากการไอหรือจามรุนแรง มักก่อให้เกิดอาการเลือดคั่งบริเวณที่ผ่าตัด ทำให้การแห้งหรือยุบบวมเป็นไปได้ช้ากว่าปกติ
– กรณีตัดปีกหรือเก็บปีก ไม่อ้าปากกว้าง ไม่ยิ้มกว้าง ไม่หัวเราะกว้าง ไม่หาวกว้าง เพราะจะทำให้แผลแยก และจะเป็นแผลเป็นนูนในที่สุด ให้ระวังให้มากค่ะ
การประคบเย็น
– แนะนำประคบเย็น 15 นาที และพักอย่างน้อย ครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงค่ะ
– ประคบเย็น ในช่วง 2-3 วันหลังการผ่าตัด โดยให้ประคบ บริเวณแก้ม หน้าผากและใต้ตาเพื่อให้ยุบบวมเร็ว
– อย่าลืมว่า การประคบเย็น อย่าง คร่ำเคร่ง ไม่ได้เป็นตัวช่วยลดบวมได้อย่างเดียวเท่านั้น ไม่แนะนำให้ประคบต่อเนื่อง โดยไม่หยุดพัก เพราะอาจเกิดภาวะผิวไหม้ความเย็นได้
– หากหลังทำไปแล้ว 3-4 วัน มีการการช้ำ ท่านสามารถประคบอุ่น เพื่อช่วยลดอาการเขียวช้ำได้ค่ะ
วิธีทำความสะอาด ล้างแผล
– ให้เปิดขวดน้ำเกลือ และเก็บขวดอย่างถูกวิธี หลังเปิดใช้แล้ว 7 วันควรทิ้งขวดน้ำเกลือนั้นๆ
– ไม่ควรใช้สำลีจุ่มในฝาขวด เพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนภายในขวดได้
– การทำความสะอาดแผล ควรใช้วิธีแตะเบาๆ ไม่ใช้วิธีขัดถูเพราะไหมอาจหลุดได้
– เมื่อทำความสะอาดไป 2-3 วัน สะเก็ดเลือดบริเวณแผลผ่าตัดจะหลุดออกเอง ไม่จำเป็นต้องให้เกลี้ยงตั้งแต่การทำความสะอาดครั้งแรกๆ
– แนะนำล้างแผลหลังการผ่าตัดไปแล้ว อย่างน้อย 48 ชั่วโมงนะคะ เพื่อให้เนื้อเยื่อมีโอกาสได้สมานเรียงตัวกันอย่างปกติแล้วสักช่วงหนึ่งค่ะ
– งดโดนน้ำ โดยเฉพาะบริเวณปากแผลเย็บ ต้องแห้งสนิท จนกว่าจะตัดไหม
– ท่านสามารถล้างหน้าได้ปกติ หลังจากตัดไหมไปแล้ว 1 วัน เพื่อให้รอยเย็บปิดสนิทเสียก่อนค่ะ
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังการ แก้จมูก หรือ เสริมจมูก
– อาหารรสชาติเผ็ดร้อน ควรเลี่ยงอย่างน้อย 1 สัปดาห์
– อาหารทะเล กุ้ง หอย ปลาหมึก ปู ควรเลี่ยงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ (ปลาสามารถทานได้)
– งดดื่มแอลกอฮอล์ และงดบุหรี่ 1 เดือน (การสูบบุหรี่จะทำให้เกิดแผลเป็นได้ง่ายค่ะ ทั้งในกรณีเสริม หรือ แก้จมูก โดยเฉพาะกรณีตัดปีกค่ะ)
– งดอาหารรสจัด ทานเฉพาะอาหารปรุงสุก สะอาดเป็นเวลา 1 เดือน
– อาหารหมักดอง ปลาร้า แหนม ผักดอง ปูดอง ควรเลี่ยงอย่างน้อย 1 เดือน
– ไข่ สามารถทานได้ตามปกติ แต่ไม่ควรเกินวันละ 1-2 ฟอง
– อาหารที่มีกลิ่นฉุน ควรเลี่ยงอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เผื่อป้องกันการไอจาม จะทำให้เกิดความบอบช้ำได้ค่ะ
คำแนะนำต่างๆ เป็นคำแนะนำคร่าวๆตามพื้นฐานทั่วไปจากประสบการณ์การดูแลคนไข้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเท่านั้น ท่านจึงควรปรึกษาแพทย์เป็นรายๆไปเพื่อความเหมาะสมค่ะ