มีคำถามเข้ามานะคะว่าสำหรับการเสริมจมูกไปแล้วซิลิโคนเอียง ถามว่ามันเกิดได้จากสาเหตุอะไรบ้าง จริงๆแล้วหละๆจะมีอยู่ไม่กี่อย่างก็คือ ถ้าไม่ฐานจมูกเราเอียงอยู่ ก็เกิดจากการวางซิลิโคนที่มันเอียง

ซึ่งถ้าเกิดจากฐานเดิมที่มันเอียงสามารถตรวจสอบได้จากตอนก่อนที่จะทำนะคะว่าฐานจมูกเราเป็นอย่างไร ลองสังเกตุดูว่าฐานจมูกเราเป็นอย่างไร ก่อนเข้าไปพบแพทย์ ลองศึกษาจากคลิปดูก่อน ถ้าฐานจมูกเราเอียงอยู่เสริมจมูกมายังไงก็เอียงนะคะ เว้นแต่ว่าเราจะไปจัดการผ่าตัดแก้ไขเรื่องของฐานและก็โครงสร้างเดิมของเราที่มันเอียงอยู่จัดการตรงนั้นให้เรียบร้อยนะคะ ในส่วนนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเสริมจมูก เพราะว่าถ้าเราคิดง่ายๆ ว่าฐานจมูกเราเอียงและวางซิลิโคนให้ตรงมันก็คงตรงจริงๆ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ก็เกิดว่าฐานเดิมมันเอียงเสริมจมูกด้วยการวางซิลิโคนในแนวตรง สุดท้ายมันก็เอียงอยู่ดี ซิลิโคนมันไม่แนบกับฐานจมูกเดิมก็จะมีปัญหาขึ้นมาได้ ตามมาทีหลัง
อีกอย่างหนึ่ง ถ้าเกิดว่าฐานจมูกเอียงนิดหน่อยแล้วเราพยายามไปฝืนเสริมให้มันดูตรงๆ สุดท้ายยิ่งจะไม่สวยและดูไม่เป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะจริงๆฐานจมูกของเราไม่มีใครตรง

ฐานเดิมเอียง….ก็เสริมได้

อีกประการหนึ่งเกี่ยวกับคุณหมอ เกี่ยวกับการเหลาซิลิโคน เกี่ยวกับการจัดวาง

ประการถัดไป คือการดูแลตัวเอง ส่วนใหญ่ที่พบเกิดจากการที่เราดูแลไม่ดี นอนเอียง นอนตะแคง หรือไม่ก็โดนกระแทก ซึ่งหลักๆส่วนใหญ่ ก็จะเป็นอยู่เท่านั้น ซึ่งอันนั้นก็ระวังได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในช่วงสัปดาห์แรกให้นอนหมอนสูง นอนตรง เพื่อให้ซิลิโคนอยู่ที่เดิม ไม่นอนตะแคงไม่นอนคว่ำ อีกอันนึงก็คือไม่ไปกระแทกซิลิโคน ทำอะไรก็ตามให้คอยระวัง แม้กระทั่งเรื่องของการเปิดปิดประตูห้องนอน เปิดประตูห้องน้ำ  เปิดประตูเสื้อผ้า เพราะว่าลักษณะของจมูกเราเปลี่ยนไป จะทำให้ลักษณะการเปลี่ยนไปจะทำให้ระยะการเปิดปิดประตูผิดแผนแตกต่างไปจากเดิม  บางท่านที่หมอเคยเจอมา ก็คือยกน้ำดื่ม ไม่ได้ใช้หลอดดูด ยกน้ำขึ้นดื่มน้ำกระป๋อง กระแทกจมูก ขวดน้ำกระแทกจมูกบ้างก็มี ตรงนี้ต้องระวัง

ส่วนสุดท้าย ไม่ค่อยมีใครทราบ แต่หมออุ๋ยให้ความสำคัญมาก  เรื่องของการติดเชื้อ โดยเฉพาะช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพราะว่าการติดเชื้อในช่วงที่แผลยังปิดไม่สนิทดี มีส่วนทำให้ ด้านในที่เราใส่ซิลิโคนไว้ มีการติดเชื้อ ซึ่งมันจะเป็นกระเปราะหนองเล็กๆมันจะเริ่มค่อยๆโตขึ้น แพร่เชื้อขึ้นได้ในระยะยาวหรือในบางทีเป็นกระเปราะหนองเล็กๆ แล้วไม่จัดการเชื้อได้ทั้งหมด จมูกโดยรวมดุแห้งดีแล้ว แต่นานวันขึ้นเกิดการอักเสบ บวมแดงขึ้นมา ตามมาทีหลัง ก็มีได้เหมือนกันซึ่งตรงนี้ ถามว่าเราจะระมัดระวังได้อย่างไร ก็คือในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกให้ปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลแผล โดยเฉพาะ 1-3 วันแรก พยายามอย่าให้โดนน้ำเลยเป็นเด็ดขาดก่อนที่จะตัดไหม ควรใช้วิธีการเช็ดหน้า ไม่ควรใช้วิธีการล้างหน้าหรือสัมผัสน้ำเลย เช่นเดียวกับการสระผม ตรงนี้ให้ระวังว่า อย่าก้มหน้าสระผม เพราะบางที น้ำหรือแชมพูที่เราใช้สระผม ก็จะกระเด็นโดนแผลได้เหมือนกัน ตรงนั้นก็จะมีการติดเชื้อเล็กๆ เข้าไปค้างอยู่ที่แผล การล้างทำความสะอาดแผลในช่วงที่ยังไม่ได้ตัดไหม ช่วงนี้ต้องระวัง สำคัญมากๆตัวที่สามารถที่จะใช้ล้างแผลก็คือ คัตเตอร์บัดสะอาด สำลีสะอาด ชุบน้ำเกลือ ไม่ควรใช้น้ำเปล่านำมาล้างแผล

หมออยากให้ใส่ใจกับการดูแลรักษาความสะอาด เพื่อเฝ้าระวังการติดเชื้อโดยเฉพาะในช่วง 1-2สัปดาห์แรกอย่างมาก เพราะปัจจัยตรงนี้เป็นปัจจัยไม่ค่อยมีใครทราบว่าในอนาคตระยะยาวเราอาจทำให้ซิลิโคนบิดเบี้ยวผิดรูปหรือว่าเอียงได้ตามมาทีหลัง อย่างไรก็ตามเรื่องการตัดไหมในช่วง 7-10 วันแรก โดยส่วนใหญ่แล้วทางคลินิกก็จะนัดหมายเราเพื่อไปตัดไหมที่คลินิกอยู่แล้ว มีการดูแลลักษณะของการติดเชื้อให้อยู่แล้วว่าควรจะทานยาแก้อักเสบ หรือยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องหรือไม่ สำหรับใครก็ตามที่เข้าไปตัดไหมที่คลินิกหรือตัดไหมที่คลินิกอื่นๆ ที่ไม่ได้ดูแผลตรงนี้ให้เรา ก็อย่าเพิ่งนอยในส่วนที่เราไม่สามารถมองเห็นด้วยตนเองได้ คือแผลที่เราไม่รู้ แดงๆ มันแดงจากการติดเชื้อหรือไม่ ติดเชื้อยังไง ถ้าเดิมเราได้ทานยาแก้อักเสบอยู่แล้วประมาณ 5-7 วัน แล้วรู้สึกว่าขี้เกียจ เบื่อ ก็อย่าเพิ่งไปขี้เกียจ เพราะนั่นคือส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะป้องกันการบิดเบี้ยว หรือ ซิลิโคนที่เราเสริมไปได้ ฝากไว้นะคะ

หากในช่วงหลังทำระยะแรก   สังเกตว่าจมูกเอียง  แนะนำให้รอเวลาก่อนเพราะอาจเป็นเพียงอาการบวมเฉยๆ  ซึ่งนานวันเข้าจะเห็นว่าค่อยๆเอียงน้อยลงเองเพราะไม่ใช่การเอียงแท้จริง 
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่ะ